ตกงานนานสมัครงานอย่างไร

การตกงานมีสาเหตุได้หลายอย่าง บางคนสมัครใจว่างงานด้วยตัวเอง ในขณะที่บางคนโดนบริษัททำร้ายด้วยการเชิญให้ออกจากงาน ถ้าใครโดนอย่างหลัง ก็คงมีบ้างที่จะรู้สึกเสียใจ เสียเซ้ลฟ์ เสียศูนย์ แต่เมื่อเวลาล่วงเลย อยากจะกลับมาโชว์ความสามารถในออฟฟิศอีกรอบ จะทำยังไงดี ว่างงานไปช่วงหนึ่งแล้วกลัวโดนปฏิเสธอีกรอบ วันนี้มีเคล็ดลับ 5ข้อมาแนะนำกันค่ะ

ตกงานนานสมัครงานอย่างไร

1. มองหางานที่คิดว่าเหมาะสมจริง ๆ

จริง ๆ แล้วการที่ว่างงานก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมีเวลาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ และได้ใช้เวลาตระหนักถึงความต้องการที่แท้จริงของชีวิตมากขึ้น ลองคิดดูว่าเรามีความสามารถ ความถนัด หรือความชอบด้านใดเป็นพิเศษ และนอกเหนือไปจากนั้น อย่าลืมเรียงลำดับความสำคัญด้านอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการสมัครงานด้วย เช่น สวัสดิการ ค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผล และอื่น ๆ คราวนี้เมื่อเราต้องหางานใหม่อีกครั้ง จะได้เลือกงานที่ใช่กับเรามากที่สุด

2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เมื่อมีโอกาสได้ว่างงาน บางทีอาจมีเผลอ ใช้ชีวิตตามสบายเกินไปบ้าง เช่นนอนตี 3 ตื่นบ่าย 2 ตื่นแล้วไม่อาบน้ำ ไม่แต่งตัว เมื่อคุณอยากจะกลับเข้าตลาดงานอีกครั้ง คงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลับเข้ามาใกล้เคียงวงจรชีวิตคนทำงานให้มากที่สุด พยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วยการเข้าเวปไซต์หางาน หรือถามหาโอกาสการรับคนเข้าทำงานจากเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง หาความรู้รอบตัวที่เกี่ยวข้องกับตลาดงานจากทุกสื่อให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อเตรียมความพร้อมกับการถูกเรียกสัมภาษณ์งานอีกครั้ง

3. ปรับปรุงเรซูเม่

หยิบเรซูเม่ฉบับเก่าขึ้นมาอีกครั้ง แล้วอัปเดทเสียใหม่ ถ้าคุณมีโอกาสอันดีได้ทำงานฟรีแลนซ์ หรือโปรเจกต์อื่นใดในช่วงที่ว่างงานอยู่ ก็อย่าลืมเพิ่มเติมลงไปด้วย จงจำไว้ว่าเรซูเม่ที่มีช่วงเว้นว่างของระยะเวลาบางช่วงไป จะเป็นช่องว่างให้บรรดาเหล่าผู้จ้างงาน ถามว่า ณ ช่วงเวลานั้น เราหายไปไหนมา ทำอะไรอยู่ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ในช่วงที่ว่างงาน ก็อย่าลืมเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองในด้านที่เราขาดด้วย นอกจากฝึกฝนเพิ่มเติมทักษะเฉพาะตัวแล้ว ยังทำให้เรซูเม่เราดูน่าค้นหามากขึ้นกว่าเดิมด้วย

4. ปรับแก้ทัศนคติ

คนที่เคยตกงานมาในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการตกงานโดยสมัครใจหรือด้วยภาวะจำยอมก็ตามที อาจเป็นไปได้ว่าเกิดความหดหู่ในชีวิต เสียความมั่นใจบางส่วนจากการทำงาน หรือบางคนอาจถึงขั้นมีทัศนคติไม่ดีกับออฟฟิศเดิม หัวหน้าเดิม แบบแค้นฝังหุ่น ถ้าคุณเข้าข่ายเป็นผู้มีทัศนคติในแง่ลบดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วละก็ ขอบอกเลยว่า ขอให้หยุด แล้วปรับทัศนคติใหม่ให้เป็นไปในทางบวกเสีย เพราะอะไร ๆ ก็ตามที่เราคิด มันจะยึดติดอยู่ในจิตใต้สำนึกเราอย่างเหนียวแน่น ซึ่งมีผลต่อการแสดงออกทางความคิดและอารมณ์ของเราด้วย ความรู้สึกในส่วนนี้ ถ้าตามเราเข้าห้องสัมภาษณ์ไปด้วยคงไม่ดีแน่ ๆ เชื่อเถอะว่าทุกองค์กรอยากได้คนที่มีทัศนคติในทางบวกเข้าไปร่วมงานกับองค์กรมากกว่าแน่นอนค่ะ

5. สัมภาษณ์งานแบบมือโปร

การสัมภาษณ์งานเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการสมัครงาน เป็นการสร้างความประทับใจครั้งแรกให้กับผู้ที่คุณจะเข้าไปร่วมงานด้วยในอนาคต ดังนั้นการแสดงออกในระหว่างการสัมภาษณ์งานจะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่จะบอกว่าคุณจะได้ไปต่อหรือไม่ การแสดงออกที่ว่า ไม่ใช่แค่เพียงการพูดจาตอบคำถามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแต่งตัวไปสัมภาษณ์งานให้ถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ สุภาพ ไม่ควรใส่สีฉูดฉาด หรือนุ่งสั้น เพื่อแสดงออกถึงความน่าเชื่อถือของตัวเรา เตรียมเอกสารเกี่ยวข้องที่สำคัญไปให้พร้อม (ทางที่ดีควรสอบถามทางฝ่ายบุคคลที่โทรมานัดก่อนวันสัมภาษณ์ว่าควรเตรียมอะไรไปบ้าง) อุปกรณ์เครื่องเขียนสำหรับกรอกใบสมัคร และเมื่อถึงตอนที่ต้องสัมภาษณ์งาน ควรตอบด้วยเสียงดังฟังชัด สบตาผู้สัมภาษณ์ ตอบด้วยความมั่นใจ คิดก่อนตอบ ไม่ต้องรีบ ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าพูดโอ้อวด อย่าโกหก หรือสร้างภาพให้เกินจริง เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงออกจากงานเก่า ไม่ควรกล่าวพาดพิง หรือต่อว่าที่ทำงานเก่าอย่างเด็ดขาดนะคะ จะทำให้คุณดูไม่ดีมาก ๆ ในสายตาของผู้สัมภาษณ์งาน และอย่าลืมเล่าด้วยว่า ระหว่างที่คุณว่างงาน คุณได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ หรือได้รับความรู้อะไรใหม่ ๆ ที่จะนำมาช่วยในการทำงานครั้งต่อไปของคุณได้บ้าง

เพิ่มเติม : https://www.jobkia.com/

Yum Brands รายได้ต่อไตรมาสเพิ่มขึ้น 8% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการ Taco Bell ที่สูงขึ้น

Yum Brands เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมารายงานว่ารายได้ประจำไตรมาสเพิ่มขึ้น 8% โดยได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของ Taco Bell เพื่อเพิ่มยอดขายในสาขาเดิม

หุ้นของ บริษัท ลดลงน้อยกว่า 1% ในการซื้อขายล่วงหน้า

นี่คือสิ่งที่ บริษัท รายงานเมื่อเทียบกับสิ่งที่ Wall Street คาดหวังจากการสำรวจของนักวิเคราะห์โดย Refinitiv: กำไรต่อหุ้น: 1.01 ดอลลาร์ปรับเทียบกับ 80 เซนต์ที่คาดไว้
รายรับ: 1.45 พันล้านดอลลาร์เทียบกับ 1.42 พันล้านดอลลาร์ที่คาดไว้ Yum รายงานรายได้สุทธิในไตรมาสที่สามที่ 283 ล้านดอลลาร์หรือ 92 เซนต์ต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 255 ล้านดอลลาร์หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่แล้ว

การลงทุนของ Yum ใน Grubhub ทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 2 เซนต์ในไตรมาสนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรม เจ้าของ KFC ซึ่งโต้แย้งเงื่อนไขของข้อตกลงกับ Grubhub ในช่วงฤดูร้อนนี้ยังกล่าวว่าได้ขายหุ้น 3% ในราคา 206 ล้านดอลลาร์ การลงทุนครั้งนี้ทำให้ Yum มีที่นั่งบนกระดานของ Grubhub โดยให้ที่นั่งด้านหน้าเพื่อดูว่า บริษัท จัดส่งของบุคคลที่สามดำเนินการอย่างไร ผู้บริหารกล่าวว่าการขายไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมุมมองของพวกเขาที่มีต่อพื้นที่จัดส่งโดยทั่วไป

เมื่อไม่รวมค่าใช้จ่ายจากรายการต่างๆรวมถึงโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดโดยสมัครใจและการปรับโครงสร้าง บริษัท มีรายได้ 1.01 ดอลลาร์ต่อหุ้นซึ่งสูงกว่า 80 เซนต์ต่อหุ้นที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้โดย Refinitiv

ยอดขายสุทธิ 1.45 พันล้านดอลลาร์สูงกว่าปีก่อน 8% ซึ่งเหนือความคาดหมายที่ 1.42 พันล้านดอลลาร์ ยอดขายสาขาเดียวกันใน Yum ลดลง 2% แต่ยอดขายดิจิทัลของ บริษัท สร้างสถิติในไตรมาสหนึ่งซึ่งสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ Taco Bell รายงานยอดขายสาขาเดิมเติบโต 3% ไตรมาสที่แล้วเครือข่ายมียอดขายสาขาเดิมลดลง 8% โดยได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงจากลูกค้าในช่วงเช้าและช่วงดึก

แบรนด์อื่น ๆ ของ Yum รายงานว่ายอดขายในสาขาเดียวกันลดลงในไตรมาสนี้ ผลลัพธ์ของ KFC และ Pizza Hut ถูกฉุดลงจากอุปสงค์ในตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัวลง ยอดขายสาขาเดียวกันทั่วโลกของ KFC ลดลง 4% แม้ว่ายอดขายสาขาเดียวกันในสหรัฐฯจะเติบโต 9% ก็ตาม Pizza Hut รายงานยอดขายสาขาเดียวกันทั่วโลกลดลง 3% ยอดขายในร้านเดียวกันรายไตรมาสของเครือพิซซ่าเพิ่มขึ้น 6% ในสหรัฐอเมริกา

Habit Burger Grill ซึ่ง Yum ซื้อเมื่อต้นปีนี้มียอดขายในสาขาเดียวกันลดลง 3% ในไตรมาสนี้ ไตรมาสที่สามของ Yum ยังรวมถึงการปิดร้านอาหารสุทธิ 267 แห่ง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วจำนวนร้านอาหารเพิ่มขึ้น 2% จำนวนร้านอาหารของ Pizza Hut ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วหลังจากการปิดทำการซึ่งรวมถึงร้านค้าหลายร้อยแห่งที่ NPC International เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาซึ่งยื่นฟ้องบทที่ 11 ล้มละลายเมื่อต้นปีนี้